![]() | ![]() นายปรีชา เรืองจันทร์ เกิดที่บ้านหนองกอไผ่ หมู่ที่ ๖ ตำบลวังสำโรง อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร เป็นบุตรของนายจวน และนางบุญมา เรืองจันทร์ มีพี่น้อง ๗ คน สมรสกับนางสาวปิยธิดา นรารักษ์ มีบุตร ๒ คน |
ประวัติการศึกษา เรียนระดับประถมศึกษา ๑ – ๔ ที่โรงเรียนวัดหนองกอไผ่ ตำบลวังสำโรง อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร และเรียนระดับประถมศึกษา ๕ – ๗ ที่โรงเรียนชุมแสงวิทยา อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ ระดับมัธยมศึกษา ม.ศ. ๑ – ม.ศ. ๕ สอบเทียบกระทรวงศึกษาธิการ ระดับปริญญาตรี รัฐศาสตร์บัณฑิต จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นิติศาสตร์บัณฑิตและรัฐประศาสนศาสตร์บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ระดับปริญญาโท รัฐศาสตร์มหาบัณฑิต จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และระดับปริญญาเอก Doctor of Organization Development and Transformation (DODT) , CEBU DOCTORS, UNIVERSITY,PHILIPPINES | |
ประวัติการทำงาน เริ่มทำงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโนบายและแผน และดำรงตำแหน่งปลัดอำเภอหลายอำเภอ ของจังหวัดนครสวรรค์ ดำรงตำแหน่งนายอำเภอวังทรายพูน จังหวัดพิจิตร และนายอำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร ดำรงตำแหน่งปลัดจังหวัดพิจิตร และตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี , จังหวัดเพชรบูรณ์ และจังหวัดสมุทรสงคราม และปี พ.ศ. ๒๕๕๐ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร นอกจากนี้ยังเดินทางไปศึกษาดูงานด้านการเมืองการปกครองในหลายประเทศได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์และเหรียญสดุดี ๘ ชั้น ชั้นสูงสุด เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๖ ประถมาภรณ์ช้างเผือก และรางวัลเกียรติคุณพิเศษ ๑๑ รายการ นอกจากงานทางราชการแล้ว นายปรีชา เรืองจันทร์ ยังมีความสามารถทางด้านงานเขียนและสิ่งพิมพ์ มีผลงานมากมาย เช่น วิทยานิพนธ์เรื่อง “การบริหารงานสำนักงานจังหวัด : ศึกษาเฉพาะกรณีจังหวัดเพชรบูรณ์” , หนังสือเสริมการอ่าน “แม่ค้าขายผัก”, เอกสารวิจารณ์หนังสือ “เล่นกับคน : ศิลปะการบริหารแบบไทย ๆ” ของอาจารย์สุขุม นวลสกุล และ “เทคนิคการบริหารเวลาสำหรับนักบริหาร” ของ ชัยรัตน์ บูรณะวิวัฒน์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีงานเขียนรวมเล่ม เช่น “ฉากชนบท” “คนกินอุดมการณ์” “ลูกล่อลูกชนคนทำงาน” “ก็อดอามี่มณีลอยปลุกราชบุรีเขย่าโลก” “ขวัญใจชาวบ้าน” “ น้ำฝนน้ำฟ้า น้ำตาน้ำก้อ “ และ “คนแบกเสบียง” เป็นต้น นามปากกาที่ใช้มี “รุ่งทิวา” “กระทิงทุ่ง” “กำนันฉะ” “ ป ปิยธิดา” “ ป นนทนันทน์” “ ป ประภัสสนันท์” “ มหานายนนทนันทน์” นับเป็นบุคคลที่มีความสามารถอีกท่านหนึ่งที่ควรยกย่องให้เป็นบุคคลสำคัญของจังหวัดพิจิตร |
วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2555
ประวัติผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ดร.ปรีชา เรืองจันทร์
ข้อมูลเกี่ยวกับจังหวัดนครสวรรค์
จังหวัดนครสวรรค์ เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ระหว่างตอนล่างของภาคเหนือและตอนบนของภาคกลาง มีพื้นที่ประมาณ 9,597 ตารางกิโลเมตร นับเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญในทางประวัติศาสตร์อีกจังหวัดหนึ่งของประเทศไทย มีพื้นที่ติดต่อกับหลายจังหวัด ได้แก่ ด้านเหนือ ติดต่อกับจังหวัดพิจิตรและกำแพงเพชร ทางตะวันออกติดกับจังหวัดเพชรบูรณ์และลพบุรี ด้านใต้ติดกับจังหวัดสิงห์บุรี ชัยนาท และอุทัยธานี ส่วนด้านตะวันตกติดกับจังหวัดตากสัญลักษณ์ประจำจังหวัด
สัญลักษณ์ประจำจังหวัด
รูปวิมานอันเป็นที่สิงสถิตของเหล่าเทวดานางฟ้า ความหมายของตราประจำจังหวัด รูปวิมานซึ่งเป็นที่สถิตของชาวสวรรค์ หมายถึง ชื่อครั้งหลังสุดของจังหวัดเป็นเมืองสำคัญในการ รบทัพจับศึกตลอดมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย
เมืองพระบางเป็นเมืองโบราณในสมัยสุโขทัยคู่กับเมืองคนที โดยตัวเมืองพระบางอยู่ที่เมืองนครสวรรค์เก่า ส่วนเมืองคนทีสันนิษฐานว่าอยู่ที่บ้านโคน ริมฝั่งแม่น้ำปิง จังหวัดกำแพงเพชร จากข้อมูลในศิลาจารึกสมัยสุโขทัย เมืองพระบางถูกผนวกรวมกันเข้ากับอาณาจักรสุโขทัยในสมัยพ่อขุนศรีอินทราทิตย์และตั้งตัวเป็นอิสระเมื่อสิ้นสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช และถูกผนวกรวมอีกครั้งในสมัยพระยาลิไท พระองค์ได้ประดิษฐานพระพุทธบาทพร้อมทั้งศิลาจารึกวัดเขากบไว้ที่เขากบ เมืองพระบาง ปัจจุบันอยู่ในจังหวัดนครสวรรค์ ในสมัยพระมหาธรรมราชาไสลือไทที่ประกาศให้สุโขทัยเป็นเอกราชได้รวมเมืองพระบางไว้ในอาณาเขตด้วย
เมื่ออำนาจของกรุงศรีอยุธยากล้าแข็งขึ้น เมืองพระบางจึงไปขึ้นกับกรุงศรีอยุธยาในที่สุด มีหลักฐานในตำนานมูลศาสนาว่าพระญาณคัมภีร์ขอที่สร้างวัดในอยุธยาเมื่อ พ.ศ. 1972 สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 ไม่อนุญาตจึงมาขอที่ที่เมืองพระบาง เจ้าเมืองพระบางไม่ยกที่ให้ อ้างว่าเป็นข้าขอบขัณฑสีมาของอยุธยา เมื่ออยุธยาไม่ให้ ทางเมืองพระบางก็ให้ไม่ได้[3]
สัญลักษณ์ประจำจังหวัด
รูปวิมานอันเป็นที่สิงสถิตของเหล่าเทวดานางฟ้า ความหมายของตราประจำจังหวัด รูปวิมานซึ่งเป็นที่สถิตของชาวสวรรค์ หมายถึง ชื่อครั้งหลังสุดของจังหวัดเป็นเมืองสำคัญในการ รบทัพจับศึกตลอดมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย
- ต้นไม้ประจำจังหวัด: เสลา (Lagerstroemia loudonii)
- คำขวัญประจำจังหวัด: เมืองสี่แคว แห่มังกร พักผ่อนบึงบอระเพ็ด ปลารสเด็ดปากน้ำโพ
ประวัติศาสตร์
นักประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่านครสวรรค์มีชื่อปรากฏมาตั้งแต่ก่อนสุโขทัยเป็นราชธานี มีชื่อในศิลาจารึกของสุโขทัย โดยเรียกว่า เมืองพระบาง เป็นเมืองหน้าด่านที่สำคญในการทำศึกสงคราม ตั้งแต่สมัยสุโขทัย อยุธยา ธนบุรี กระทั่งถึงกรุงรัตนโกสินทร์ ภายหลังเรียกชื่อว่า เมืองชอนตะวัน และเปลี่ยนเป็น นครสวรรค์ ในที่สุด แต่ชาวบ้านโดยทั่วไปเรียกกันว่า เมืองปากน้ำโพ ในประวัติศาสตร์มีหลักฐานทางโบราณคดีบ่งชี้ว่า นครสวรรค์ เคยเป็นเมืองเกษตรกรรมมาตั้งแต่ยุคต้นประวัติศาสตร์ เป็นศูนย์กลางของการคมนาคม เป็นที่ตั้งของกลุ่มชนชาวจีนที่มาทำมาค้าขายระหว่างประเทศเมืองพระบางเป็นเมืองโบราณในสมัยสุโขทัยคู่กับเมืองคนที โดยตัวเมืองพระบางอยู่ที่เมืองนครสวรรค์เก่า ส่วนเมืองคนทีสันนิษฐานว่าอยู่ที่บ้านโคน ริมฝั่งแม่น้ำปิง จังหวัดกำแพงเพชร จากข้อมูลในศิลาจารึกสมัยสุโขทัย เมืองพระบางถูกผนวกรวมกันเข้ากับอาณาจักรสุโขทัยในสมัยพ่อขุนศรีอินทราทิตย์และตั้งตัวเป็นอิสระเมื่อสิ้นสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช และถูกผนวกรวมอีกครั้งในสมัยพระยาลิไท พระองค์ได้ประดิษฐานพระพุทธบาทพร้อมทั้งศิลาจารึกวัดเขากบไว้ที่เขากบ เมืองพระบาง ปัจจุบันอยู่ในจังหวัดนครสวรรค์ ในสมัยพระมหาธรรมราชาไสลือไทที่ประกาศให้สุโขทัยเป็นเอกราชได้รวมเมืองพระบางไว้ในอาณาเขตด้วย
เมื่ออำนาจของกรุงศรีอยุธยากล้าแข็งขึ้น เมืองพระบางจึงไปขึ้นกับกรุงศรีอยุธยาในที่สุด มีหลักฐานในตำนานมูลศาสนาว่าพระญาณคัมภีร์ขอที่สร้างวัดในอยุธยาเมื่อ พ.ศ. 1972 สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 ไม่อนุญาตจึงมาขอที่ที่เมืองพระบาง เจ้าเมืองพระบางไม่ยกที่ให้ อ้างว่าเป็นข้าขอบขัณฑสีมาของอยุธยา เมื่ออยุธยาไม่ให้ ทางเมืองพระบางก็ให้ไม่ได้[3]
ปากน้ำโพ
บ้างเล่าว่าที่เรียกว่า "ปากน้ำโพ" ก็คือว่าเป็นบริเวณที่แม่น้ำปิง วัง ยม และน่านมาบรรจบกัน จึงเรียกว่า "ปากน้ำโผล่" และเพี้ยนมาเป็น "ปากน้ำโพ" ส่วนอีกตำรากล่าวว่า เป็นปากน้ำของแม่น้ำโพ (คือแม่น้ำน่านในปัจจุบัน) ที่ไหลมาบรรจบกับแม่น้ำปิง จึงเรียกว่า ปากน้ำโพ ดังเช่น ปากยม ปากชม ปากลัด และปากน้ำอื่น ๆภูมิประเทศ
สภาพภูมิประเทศของจังหวัดนครสวรรค์อยู่ในดินแดนของลุ่มน้ำ เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำสายหลักของภาคกลาง นั่นคือ แม่น้ำเจ้าพระยา อันเป็น การไหลบรรจบของแม่น้ำสี่สายจากภาคเหนือ ได้แก่ แม่น้ำปิง แม่น้ำวัง แม่น้ำยม และแม่น้ำน่าน ด้วยเหตุนี้ จังหวัดนครสวรรค์จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เมืองสี่แคว นอกจากนี้ยังมีภูเขาขนาดย่อมกระจัดกระจายในอำเภอต่าง ๆหน่วยการปกครอง
การปกครองแบ่งออกเป็น 15 อำเภอ 130 ตำบล 1328 หมู่บ้าน ![]() |
สถานที่สำคัญ
การศึกษา
โรงเรียน
ระดับอาชีวศึกษา
- วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนครสวรรค์
- วิทยาลัยการอาชีพบรรพตพิสัย
- วิทยาลัยเทคนิคนครสวรรค์
- วิทยาลัยเทคนิคแม่วงก์
- วิทยาลัยอาชีวศึกษานครสวรรค์
- วิทยาลัยการอาชีพนครสวรรค์
- โรงเรียนเทคโนโลยีภาคเหนือ
- วิทยาลัยเทคโนโลยีและการจัดการตากฟ้า
- วิทยาลัยอาชีวศึกษาวิริยาลัยนครสวรรค์ ระดับอุดมศึกษา
- มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์
- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ศูนย์วิทยพัฒนา จังหวัดนครสวรรค์
- มหาวิทยาลัยภาคกลาง
- มหาวิทยาลัยเจ้าพระยา
- วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สวรรค์ประชารักษ์ นครสวรรค์
- มหาวิทยาลัยนเรศวร ูศูนย์วิทยบริการ จังหวัดนครสวรรค์
- มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตนครสวรรค์
- มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์นครสวรรค์
เศรษฐกิจ
จังหวัดนครสวรรค์เป็นศูนย์กลางการคมนาคมในเขตพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน เพราะเป็นชุมทางของคมนาคมที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นถนน รถไฟ หรือทางน้ำ นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของท่าข้าวกำนันทรง ซึ่งเป็นตลาดกลางค้าข้าวแห่งแรกของประเทศไทย เป็นจังหวัดที่เจริญเป็นอันดับที่ 12 ของประเทศไทย ข้อมูลจากรายชื่อเมืองใหญ่ของประเทศไทยเรียงตามจำนวนประชากรบุคคลสำคัญ
- สุนัย จุลพงศธร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระบบสัดส่วน สังกัดพรรคเพื่อไทย
- โชคชัย บัณฑิต นักเขียนรางวัลซีไรต์
- นันทิดา แก้วบัวสาย นักร้อง
- ศักดิ์ศิริ มีสมสืบ นักเขียนรางวัลซีไรต์ในปี 2535 จากเรื่อง มือนั้นสีขาว
- ประภาวดี เจริญรัตนธารากุล นักกีฬายกน้ำหนักเหรียญทองโอลิมปิก 2008
- อาภาพร นครสวรรค์ นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง
- ยุทธนา เปื้องกลาง ตูมตาม thestar7
- ศิริพร อยู่ยอด นักแสดง
- ภาษิต อภิญญาวาท ผู้ประกาศข่าว
- อนาวิน จูจีน นักฟุตบอลสังกัดสโมสรฟุตบอลบางกอกกล๊าส
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)